วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

เรื่องของดาวศุกร์

  • ดาวศุกร์ ดาวแห่งความพึงพอใจ ความสนุกสนาน เป็นเรื่องของโลกียะล้วน แสดงถึง กิเลสแห่งความอยาก แรงปรารถนา และสิ่งที่ตนพึงพอใจ เมื่อดาวดวงนี้เสียในพื้นดวง เจ้าชะตามักโหยหา ดิ้นรน ไม่เคยพอใจกับวิ่งที่ตนเองมีอยู่ ในดวงจร การทำมุมของดาวศุกร์ทรานสิต กระทบกำเนิด ให้อาการตามมุม แต่ไม่นานนัก ถ้ากำเนิด ไม่เสียหายมาก ดาวศุกร์ให้ผลไปในด้านอารมณ์ ความรู้สึก ไปไว มาไว แต่คาใจนาน ถ้าถอยหน้า ถอยหลังด้วยละก็ จมปลักวกวน ปล่อยวางยาก

ดาวศุกร์ กับ ดาวต่างๆ
ในที่นี้จะขอกล่าวแต่เรื่องความรัก และอาการ
เมื่อ ดาวศุกร์ สัมพันธ์ กับดาวที่ผล ค่อนข้างชัดเจน

ดาวศุกร์ และดาวเสาร์ :
ให้อาการของความกลัว ไม่ยอมรับและปฎิเสธ

เสาร์....ชี้ให้เห็นถึงกรรม หนี้ที่ต้องชดใช้ ภาระข้อตกลง ผูกพันสัญญา

ศุกร์ Hard Aspect เสาร์ :: ความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ปัญหา การผจญภัยอย่างไม่ราบรื่น
ศุกร์ Solf Aspect เสาร์ :: ความรักที่ซื่อสัตย์ มั่นคง

ดาวศุกร์ และ ดาวไคร่อน :
ให้อาการของความรักที่เจ็บปวด

ไคร่อน....ชี้ให้เห็นถึงแรงกระตุ้น ที่จะช่วยให้หาย หรือเป็นปรกติ

ดาวศุกร์ และดาว มฤตยู : ให้อาการของ
ความห่วงหาลึกๆ การเข้าใจกัน พึ่งพา ขาดไม่ได้

มฤตยู....ชี้ให้เห็นถึงการพึ่งพา ฝ่ายตรงข้าม ว่าจะไปในทิศทางใด

มฤตยู Hard Aspect ศุกร์ :: รักง่าย หลง เวลาเลิกร้าง ขาดกัน
จะดึงดันจะเอาคืนใหได้

มฤตยู Solf Aspect ศุกร์ :: รักง่าย ตื่นเต้นเร้าใจ ตลอดเวลา

ดาวศุกร์ และ ดาวเนปจูน :
ให้อาการของความหวัง ความเชื่อว่ารักจะคงอยู่ตลอดไป
และบรรลุจุดหมาย

เนปจูน....ชี้ให้เห็นถึงความพยายามต่อสู้ต้านทาน กับรักที่ไม่มีเงื่อนไข หรือหวังสิ่งตอบแทน

เนปจูน Hard Aspect ศุกร์ :: ลุ่มหลง ทั้งหมดทั้งสิ้น ของชีวิต ทุกอย่างคือความรัก
เนปจูน Solf Aspect ศุกร์ :: รักที่อ่อนโยน sensitive เอะอะร้องไห้จินตนาการสูง

ดาวศุกร์ และ ดาวพลูโต :
ให้อาการของความกลวที่ฝังรากลึก ว่ารักจะสูญหาย
และพังทลาย

พลูโต....ชี้ให้เห็นถึงทั้งหมด การทรยศหักหลัง พลังแรง
การพึ่งพา ต้องได้ทั้งหมด ถ้า
ไม่ ทำลาย

พลูโต Hard Aspect ศุกร์ :: รักอย่างทั้งหมดทั้งสิ้น
ต้องได้ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นไม่เอาเลย

พลูโต Solf Aspect ศุกร์ :: รักดึงดูดไปหมด รู้ไปหมดจัดการอะไรได้ดี มีพัฒนาการ

Sunsign

Sun sign

วิธีการพยากรณ์จรชนิดหนึ่งที่ให้ผลในเชิงประจักษ์ ทั้งวิธีการก็ค่อนข้างสะดวกแม้จะไม่มีเวลาเกิด

หรือเครื่องไม้เครื่องมือใดๆเลยก็ตาม ขอเพียงแค่เจ้าชะตา ทราบวันเกิดที่แน่นอน ก็สามารถออกคำทำนายได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งยังมีความแม่นยำในการทำนาย ด้วยหลักการเพียงอาศัยการจดจำ ตำแหน่งดาวจรทรานสิตขณะนั้นๆ ให้ได้ก็เพียงพอแล้ว

การโคจรของดาวบนท้องฟ้า หรือที่เรียกว่า ดาวทรานสิต จะเป็นการโคจร ของดาวจรบนท้องฟ้า ในทุกๆวัน

สิ่งแรกที่เรามักต้องพิจารณาก่อนคือ ดาวพระเคราะห์วงนอก ได้แก่ ดาวพฤหัส เสาร์ มฤตยู เนปจูน และพลูโต แต่ส่วนใหญ่แล้ว

เรามักจะพิจารณาแค่ ดาวเสาร์ และพฤหัส ดาวอีกสามดวงที่เหลือ โคจร ช้ามาก มักจะใช้ในการทำนายในเรื่องของวงรอบมากกว่าที่จะนำมาพิจารณาในกฎของ Sun sign ดาวพฤหัส และ ดาวเสาร์ จะให้ผลค่อนข้างชัดกว่าเนื่องจาก ดาวพฤหัส โคจรเฉลี่ย ราศีละ 1 ปี ถึง ปี ครึ่ง ระยะเวลาของเหตุการณ์นั้นๆ จะอยู่ในช่วง1ปีครึ่ง ส่วนดาวเสาร์ โคจรเฉลี่ย ราศีละ2 ปีครึ่ง ระยะเวลาของเหตุการณ์ ก็จอยู่ในระยะ 2ปีครึ่ง ส่วน ดาว มฤตยู(ราศีละ7ปี) เนปจูน(ราศีละ14ปี) พลูโต(ราศีละ21ปี) มีระยะการโคจรในราศีหนึ่งๆ ค่อนข้างนาน ภาพใหญ่ของดาวพระเคราห์ะเดินช้าเหล่านี้มักจะให้ผลเป็นลักษณะช่วงชีวิตมากกว่า ซึ่งเราอาจจะดูประกอบได้บ้าง แต่ถ้าจะตัดสินกันแค่ในระยะเวลาใกล้ๆ ปี หรือ 2ปีอย่างมาก จะให้ผลชัดเจน และหายสงสัยกว่า ถ้าจากการโคจรของ ดาวเสาร์ และดาวพฤหัส

  • พฤหัสทรานสิต เมื่อดาวพฤหัส โคจรมาทำมุมกับอาทิตย์กำเนิด

พฤหัสทรานสิต 90 องศา อาทิตย์กำเนิด มักให้ผลในเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหา และอุปสรรคต่างๆ ทีจะต้องแก้ไข เพราะมุม90 หมายถึง มุมปัญหาและอุปสรรค ในขณะนั้น เจ้าชะตาจะทำการใดก็มักไม่เป็นผล จะพบเจอแต่เรื่องยุ่งยาก ในที่นี้ พฤหัสไม่ได้ให้ความหมายไปในด้านดีเพราะ ธรรมชาติของพฤหัสคือส่วนเกิน สิ่งที่มากไป เมื่อมาสัมพันธ์ในมุมร้าย ก็จะส่งผลให้เรื่องแย่ๆมีมากขึ้นมากกว่า และเป็นไปอย่างง่ายดาย เช่น เจ็บตัวง่ายๆ เสียเงินเสียทองง่ายๆ

พฤหัส 180 องศา อาทิตย์กำเนิด เจ้าชะตามักเผชิญกับเหตุการณ์ที่ต้องตัดสินใจ มุมนี้ให้อิทธิพลไปในด้านการแลกเปลี่ยน อะไรบางอย่าง เพราะมุมเล็ง หมายถึงต้องให้ ถ้าจะเอา มิฉะนั้น ต้องแยกทาง และสิ่งแลกเปลี่ยนนั้นค่อนข้างมากจนล้น เพราะอิทธิพลของดาวพฤหัส คือส่วนเกิน ความง่ายหรือสบายเกินไป และเรื่องราวส่วนใหญ่มักจะถูกกำหนดจากคนอื่นมายื่นข้อเสนอให้ แต่มุมนี้มักจะส่งผลไปในทางเสียให้คนอื่นมากกว่า หรือได้รับมากเกินไป อย่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้

พฤหัสโคจรทำมุม กุม อาทิตย์กำเนิด เจ้าชะตามักอยู่ในฐานะที่อยู่ในภาวะแวดล้อม ของส่วนเกินสิ่งมากมาย ล้นเหลือ อาจจะเป็นโชค หรือเคราะห์ เรื่องราวต่างๆ จะชัดเจนมาก

พฤหัสทรานสิต 60 อาทิตย์กำเนิด มุมนี้เป็นมุมของความกลมกลืน สอดคล้องเมื่อมาทำมุมสัมพันธ์กับอาทิตย์ที่หมายถึงชีวิต ชีวิตในช่วงนั้นๆ มักราบรื่น ถ้ามีปัญหาก็ค่อนข้างแก้ไขง่าย ทำการใดๆก็มักประสบผลที่ดี และ ไม่วุ่นวาย

พฤหัสทรานสิต 120 อาทิตย์กำเนิด มุมสัมพันธ์นี้ส่งผลให้เจ้าตา ไ ด้รับความช่วยเหลือ สนับสนุน การทำการใดก็จะมักราบรื่น ความสัมพันธ์ต่างๆก็มักถ้อยทีถ้อยอาศัยกันและกัน มีการขยายตัวเจริญรุดหน้าตามความหมายของพฤหัส เพราะมุม 120 เป็นมุมได้รับการช่วยเหลือ และสนับสนุน

  • ดาวเสาร์ โคจรเฉลี่ยราศีละ 2ปีครึ่ง ดาวเสาร์ให้อิทธิพลไปในทาง การเนิ่นนาน
    การรอคอย ความอดทน อุปสรรค ที่ต้องฝันฝ่า ความยาก การพลัดพราก แตกหัก

เสาร์ทรานสิต 90 อาทิตย์กำเนิด มักส่งผลให้เกิดความอึดอัด ขยับตัวไปทางใดก็ยากลำบาก ปัญหาต่างๆ กว่าจะหาทางออกได้ ต้องใช้เวลา(นาน) ลงทุนลงแรง และมักจะเสียหาย (การพลัดพราก) ทางออกที่ดีที่สุดของมุมนี้ คือความอดทน และรอคอย มิฉะนั้น ความเสียหายที่จะเกิดขึ้น คือการสูญเสีย สถานเดียว

เสาร์ทรานสิต 180 อาทิตย์กำเนิด มุมของการเผชิญหน้า การแลกเปลี่ยน ไม่ได้ก็เสีย การยอมรับอิทธิพลของเสาร์ในมุมนี้ คือการให้ เพื่อความอยู่รอด การยอมเสียเพื่อรักษาอะไรไว้ เช่น เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย การรักษาตัว ระมัดระวัง เอาใจใส่ดูแล ก็จะทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นมาได้ แต่ถ้าเราปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจ ผลที่ตามมาคือความสูญเสีย อาจจะต้องเสียเงินทองเป็นจำนวนมากเพื่อรักษา เพราะปล่อยทิ้งจนสายไป หรือเป็นหนักจนเกินเยียวยา

บางกรณีอาจต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ผู้อื่นนำความเดือดร้อนมาให้ การอดทน ยอมเสีย นิ่ง อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะมุมนี้เป็นมุมปะทะ เมื่ออีกฝ่ายได้ อีกฝ่ายจะต้องเสียเสมอ อิทธิพลของเสาร์คือการสูญเสีย การยอม เพราะฉะนั้น การไม่ยอมที่จะเสียอะไรเลย เราก็จะไม่ได้อะไรกลับมาเช่นกัน

เสาร์ทรานสิต 60 อาทิตย์กำเนิด
ในอาการของมุมสัมพันธ์แบบนี้ ค่อนช้างจะกลมกลืน ลื่นไหลกว่า สะดวก ในการปรับตัว เข้าหาคนอื่น หรือร่วมมือกันทำกิจกรรมใด ที่มีรายละเอียดหนัก สิ่งที่ทำมักให้ผลเกิดขึ้น มั่นคงหนักแน่น มีสาระ เช่น การศึกษา ในช่วงนี้จะราบรื่น เขาใจง่าย การเจรจาต่อรอง อย่างเอาเป็นเอาตาย จะง่ายขึ้น การทำงานหนัก จะส่งผลให้เกิดสิ่งต่างๆ ชัดเจนเป็นรูปเป็นร่าง แต่ยังไงก็แล้วแต่ต้องอยู่ภายใต้อิทธิพลของเสาร์ คือไม่ง่ายนัก หรือเป็นความทุกข์ ภาระ ที่รับได้ ช่วงนี้ชีวิตค่อนข้างมีสาระ จริงจัง

เสาร์ทรานสิต 120 อาทิตย์กำเนิด
มุมร่วมธาตุ เกื้อกูล รับส่งอย่างง่ายดาย เจ้าชะตาจะได้รับการสนับสนุน หรือได้รับความช่วยเหลือ ทำอะไรมักง่ายไปเสียหมด แต่อย่าลืมอิทธิพลของดาวเสาร์ด้วยที่ให้ความหมาย อาจจะทุกข์ หรือ เสียให้ กับอะไรง่ายๆก็ได้

เสาร์ทรานสิตกุม อาทิตย์กำเนิด เป็นมุมของจุดเริ่ม ที่สำคัญมาก เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป อยู่ที่การเริ่มต้น ในครั้งนี้ กรณีนี้เป็นมุมค่อนข้างแรง และชัดเจนมาก อิทธิพลของดาวเสาร์ถูกปลดปล่อยเต็มที่ มาสู่อาทิตย์ ที่หมายถึงชีวิต อาจเกิดการสูญเสีย แตกหัก หรือพบกับเรื่องทุกข์แสนสาหัส เนื่องจากมุมนี้เป็นมุมสมานเป็นหนึ่ง ธรรมชาติแท้ๆ ในพื้นดวงของดาวเสาร์จะส่งอิทธิพลจนหมด ถ้าเสาร์กำเนิดมีพื้นฐานมาดี การมากุมกันจะนำอิทธิพลในด้านดีมาสู่เจ้าชะตา เช่น อาจเป็นช่วงกำลังก่อร่างสร้างตัว เพื่อ อนาคต การต้องรับภาระ การงาน ที่หนักขึ้น เหนื่อยขึ้น เพื่อขยายตัว แต่ถ้าอิทธิพลของเสาร์ในพื้นดวง ไม่ค่อยดี พลังงานที่ถูกปล่อยออกมาจะออกมาในรูปของความทุกข์ ภาระ หรืออะไรหลายๆอย่างที่ไม่เป็นผลดีกับตัวเจ้าชะตานัก

เบื้องต้น เราอาจจับตาดูแค่ธาตุ เสาร์ธาตุดิน เมื่อโคจร เข้าหาอาทิตย์ ที่มีธรรมชาติเป็นธาตุไฟ ย่อมเกิดการขัดกัน ในเรื่องธรรมชาติแน่นอน ส่วนจะให้ผลขนาดไหน ธรรมชาติของธาตุในราศีที่เกิดการกุมกัน จะส่งผลขยาย อาทิตย์ หรือเสาร์ ให้ดาวใดมีอิทธิพลมากกว่า อีกประการหนึ่ง

การลงลึกในรายละเอียด อาจต้องอาศัยการผูกดวงกำเนิดขึ้นดู ก็จะได้คำตอบที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เช่นในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับดาวพฤหัส ในพื้นดวงว่าดวงเดิมพฤหัสเป็นอย่างไร และพฤหัสทรานสิตทำมุมสัมพันธ์กับพฤหัสเดิมด้วยหรือไม่ เช่น ถ้าพฤหัสทรานสิตโคจรทำมุม 90 อาทิตย์กำเนิด และในพื้นดวงเดิม อาทิตย์ทำมุมสัมพันธ์ 90 องศากับพฤหัส

ในกรณีนี้ อาทิตย์พฤหัส แปลว่า บุรุษผู้โชคดี มุม90 องศา เป็นมุมอุปสรรค ปัญหาต้องแก้ไข ก็จะแปลว่า เป็นคนที่ไม่ค่อยมีโชคง่ายๆ สบายๆ ถ้าจะมีก็มักต้องพบอุปสรรคเสียก่อน เป็นแนว ทุกข์ลาภเสียมากกว่า พฤหัสจรตัวนี้ จะให้ผลกระตุ้นให้ พื้นดวง ระหว่างอาทิตย์และพฤหัส ทำงาน

ตามพื้นดวงในแบบถ้าตอนนั้นคิดการใดๆ มักไม่สำเร็จ หรือกว่าจะทำได้ ต้องลงทุนลงแรง มาก และมักได้ไม่คุ้มเสีย การใช้จังหวะดาว ก็ควรรอให้ พฤหัสทรานสิตโคจร มาทำมุมดีๆ เช่น 60 120 กับอาทิตย์ หรือพฤหัสกำเนิดเสียก่อน ก็จะช่วยให้ปัญหาต่างๆแก้ไขง่ายขึ้น

ในกรณีนี้ที่เป็นปัญหา เพราะพื้นดวง มีปัญหาอยู่ การแก้ด้วยจังหวะของดาวจรทรานสิต เพียงแค่ ผ่อนปรน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพลิกชะตาไปพ้นจากดวงกำเนิดได้ เพียงแต่ดาวทรานสิตไปกระตุ้นให้พื้นดวงทำงาน ในภาพใหญ่ ในอาการตามมุมสัมพันธ์ ของดาวทรานสิต เมื่อไหร่ อาทิตย์ทรานสิต

เนื่องจากว่า ดาวพฤหัส และ เสาร์ โคจรช้ามาก กำหนดการเกิดเหตุการณ์จะค่อนข้างกินระยะเวลากว้าง แต่อาทิตย์โคจรเร็ว เพราะฉะนั้น เหมือนว่ามีเหตุการณ์ก่อตัวขึ้นแล้ว อาทิตย์ทรานสิตจะมาจุดชนวน กับ โครงสร้างที่รออยู่ก่อน ว่าจะเกิดในวันใด เนื่องจากอาทิตย์ โคจร วันละ1 องศา เทียบได้กับ ในรอบวัน

การกำหนดวันเกิดเหตุ ต่อเมื่ออาทิตย์ทรานสิตนั้น โคจร ทำมุมสัมพันธ์กับอาทิตย์กำเนิดเป็นหลัก โดยมีระยะวังกะ ก่อนเข้า 2-3 องศา และออก 1-2 องศา เราก็สามารถกำหนดวันเกิดเหตุ ได้กว้างที่สุด ไม่เกิน5วัน แคบสุด ไม่เกิน 2 วัน ภายในระยะวังกะที่กำหนด จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นแน่นอน

มุมสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ระหว่าง อาทิตย์ทรานสิต และอาทิตย์กำเนิด จะเป็นตัวบอกอาการของรายละเอียดเรื่องราว เช่น อาทิตย์ทรานสิต โคจร 90 ทำมุม กับ อาทิตย์กำเนิด วันนั้นๆ มักจะ ประสบปัญหา ความยุ่งยาก ต้องแก้ไข

ถ้าอาทิตย์ทรานสิตโคจร ทำมุม 60 หรือ 120 เป็นมุมอ่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มักจะให้ผลราบรื่น หรือ เป็นเหตุการณ์ที่นุ่มนวลกว่า

ทั้งนี้และทั้งนั้น ภาพใหญ่ของดวงต้องมาก่อน ถ้าภาพใหญ่เสียหาย เช่น พฤหัสทรานสิต หรือเสาร์ ทรานสิต ทำมุมเสียกับอาทิตย์กำเนิด เมื่ออาทิตย์ ทรานสิต โคจรมาสัมพันธ์ในมุมแรง เหตุการณ์รุนแรงนั้นๆ อาจจะก่อตัวขึ้น ในวันนั้น ในระยะวังกะที่เป็นไปได้ และจะเกิดเหตุการณ์ที่ค่อนข้างรุนแรง

การทำมุม ของอาทิตย์ทรานสิต กับอาทิตย์กำเนิด

  1. 0 องศา มุมเริ่มต้น จุดกำเนิด เรื่องราว (กรณี อาทิตย์จร ทับอาทิตย์ กำเนิด
    เรียกอีกอย่างว่า ดวงโซล่าร์รีเทิร์น สามารถ ใช้พิจารณา เป็นดวงรายปีได้ เพราะ
    เหมือนกับว่าเป็นการตั้งต้นใหม่ของชีวิต ในปีนั้นๆ และจะครบ1รอบ กินระยะเวลา 360 วัน คือ 1 ปี)
    22.3 องศา มักให้อาการของจุดเริ่มปัญหา เริ่มก่อตัว
    30 องศา วันนั้นมักให้อาการ สบายๆ ทำอะไรเรื่อยๆ จัดว่าราบรื่นพอควร
    36 องศา ปัญหาที่เริ่มมี สบช่องที่พอจะแก้ไขได้ ปัญหาเพิ่งเริ่ม แต่ถ้าปล่อยปละละเลย จะเข้าสู่ มุม ที่มีปัญหาแล้ว
    40 องศา เตรียมพร้อมที่จะแก้ไข ต้องแก้แล้ว
    45 องศา มักให้อาการของปัญหาที่ก่อตัว เริ่มมีเรื่องวุ่นวาย เริ่มชัดขึ้น เกิดขึ้น
    60 องศา มักให้อาการของการปรับ ขยับตัวง่ายขึ้น คล่องขึ้น ถ้าปัญหาที่แก้ไม่ได้ตอนมุม 45 จะแก้ไขได้ในตอนนี้ ค่อนข้างเป็นวันที่ราบรื่น
    72 องศา ปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ยังรับมือได้สบายๆ แต่อย่าเผลอเรอ ต้องเตรียมพร้อม
    80 องศา เป็นมุมให้โอกาสสุดท้าย ถ้าปัญหายังคาราคาซังอยู่ เป็นช่วงที่จัดการได้ ก่อนจะเข้าสู่มุมปัญหาจริงๆ 90องศา
    90 องศา เป็นมุมปัญหาใหญ่ เกิดศัตรู เริ่มเดือดร้อน เริ่มส่อเค้าแตกหัก ขัดแย้ง
    108 องศา เป็นมุมหยุดพักหายใจจากปัญหาที่มีมาจากมุม 90องศา มองเห็นทางออกของปัญหา ต้องสร้างเงื่อนไข
    120 องศา ปัญหาจะถูกแก้ไขได้ในช่วงนี้ จากการได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น มีคนมาสนับสนุน
    135 องศา เริ่มมีอาการถูกบังคับอะไรบางอย่าง ให้ทำ หรือไม่ทำอะไร รบกวน ทำให้อึดอัด
    144 องศา มุมมีโอกาส แก้ไข โดยอาจต้องพึ่งพาผู้อื่นให้ช่วย
    150 องศา มุมถูกบีบบังคับ แบบจำยอม หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าไม่สู้มีโอกาสแพ้สูง ต้องรับผิดชอบ หนีไม่ออก
    160 องศา มุมสุดท้าย ต้องรีบแก้ไข หว่านล้อมได้ เพื่อหาพันธมิตร
    180 องศา มุมแลกเปลี่ยน ได้อย่าง เสียอย่าง การเผชิญหน้าที่ ชัดเจน ศัตรูเปิดเผยตัว แตกหัก การขัดแย้งรุนแรงที่เริ่มมีผลชัดเจน ว่าใครจะอยู่หรือ ใครจะไป ใครได้ ใครเสีย
  • การโคจรของอาทิตย์ทรานสิต

    เรือนที่ 1 ตนุ มักจะให้ผลไปในเรื่องการการเริ่มทำอะไรใหม่ๆ เรื่องที่เข้ามาปะทะแบบรวดเร็ว มักจะมีความคิดริเริ่มใหม่ๆเกิดขึ้น อยากทำโน้นทำนี้ มีความรู้สึกตื่นตัว กระตือรือร้น เป็นเรื่องของการแสดงออก

    เรือนที่ 2 กดุมภะ แห่ง การได้มา การหาเข้า ชีวิตในช่วงนี้มักพัวพันกับเรื่องการเงินการทอง การหารายได้ การรับอะไรเข้ามาในชีวิต และมักจะเป็นไปในแบบของความแน่นอน หนักแน่น ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากเนื่องจากเป็นที่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหวอะไรมาก

    เรือนที่ 3 สหัชชะ พี่น้อง คนสนิท คนใกล้ตัว การเคลื่อนไหว การติดต่อสื่อสาร ช่วงนี้ เจ้าชะตาอาจมีธุระปะปังมาก มีการเดินทางระยะใกล้ๆ ไปโน้น มานี้ ติดต่อกับคนมากมาย ธรรมชาติของธาตุลม การไม่อยู่นิ่ง ช่วงนี้อาจมีความคิดอ่านแล่นฉิว โลดแล่นตามภาวะของธาตุลม

    เรือนที่ 4 พันธุ ชีวิตช่วงนี้มักเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่บ้าน ที่ทำงาน การใช้ชีวิตจริงจัง มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเกิดขึ้น มีการปรับตัวขยับขยาย วุ่นวายกับเรื่องราวภายในบ้าน หรือที่ทำงาน หรือที่ๆใช้ชีวิตอยู่ส่วนมาก

    เรือนที่ 5 ปุตตะ การใช้ชีวิต มักออกไปในรูปแบบของความสนุกสนาน บันเทิง หรือ การพรีเซนต์ตัวเองกับผู้อื่น การแสดงออกที่เป็นลักษณะผู้นำเกี่ยวข้องกับการต้องการแสดงตัว ให้เป็นที่ยอมรับ ต้องการการสนอกสนใจจากผู้อื่น เหมือนลักษณะเด็กๆที่เอาแต่ใจ หรือมีการเคลื่อนไหวในเรื่องของความรัก ความโรแมนติค

    เรือนที่ 6 อริ เป็นเรื่องของความ ละเอียดลออ การจู้จี้จุกจิกกับสิ่งเล็กๆน้อย โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับงาน บางสิ่งบางเรื่องก็สนใจเกินเหตุ สนใจแต่ปลีกย่อย ไม่ให้ความสำคัญกับอะไรชัดเจน จุกจิกไปเรื่อย มีปัญหามาให้แก้ไข

    เรือนที่7 ปัตนิ การปรับ รับ ให้ ได้ เสีย การใช้ชีวิต ปะทะกับผู้อื่น มักมีข้อแม้มาจากผู้อื่น อาจได้รับข้อเสนอใหม่ๆ หรือการยื่นเงื่อนไขที่ต้องตัดสินใจ

    เรือนที่ 8 มรณะ การปรับสภาพเพื่อให้อยู่ได้ ค่อนข้างจริงจัง อาจมีเรื่องของการสูญเสีย เจ็บไขได้ป่วยไม่สบาย รายได้ของผู้อื่น ทรัพย์สิน การฟ้องร้อง

    เรือนที่ 9 ศุภะ การพุ่งไปข้างหน้า การมองการไกล มองสิ่งที่จะขยับขยาย อาจเป็นเรื่องของการศึกษา การเดินทางไกล การคิดนึกสู่โลกหน้า(ศาสนา)

    เรือนที่10 กัมมะ ความจริงจังหนักแน่น คิดเยอะ คิดมาก เตรียมการต่างๆอย่างระมัดระวัง ราศีกุมภ์ ธาตุลม สถิรราศี การเผชิญกับเรื่องตื่นตาตื่นใจ วูบไหว

    เรือนที่ 11 ลาภะ การเข้าสังคม กับเพื่อนฝูง สาธารณะชน

    เรือนที่ 12 วินาสน์ มักจะมีแนวโน้ม ของการเก็บตัว อยู่เบื้องหลัง หรือทำอะไรไม่เปิดเผย เรื่องส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครรู้ หรืออาจเกี่ยวกับสุขภาพที่ไม่ดี การต้องเข้าโรงพยาบาล เรือนนี้ให้อิทธิพลไปในแนวของสิ่งที่ปิดบังไม่เปิดเผย ไม่เห็น