วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โหราศาสตร์ธรรมชาติ(Physical Astrology)

โหราศาสตร์ เป็นการศึกษาระหว่างสิ่งที่มีวิญญาณกับสิ่งที่เป็นวัตถุ สิ่งที่อยู่ภายนอก กับสิ่งที่อยู่ภายใน มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร สรรพสิ่งในจักรภพล้วนเกี่ยวเนื่องกัน ทุกอย่างคือองคาพายพอันเดียวกัน มนุษย์ โลก ดวงดาว เอกภพ สิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต ทุกอย่างสอดคล้องต้องกันของการดำรง คง อยู่ เสื่อม ดับสลาย และเกิดขึ้น
โหราศาสตร์ธรรมชาติเป็นการศึกษาของความสัมพันธ์ระหว่างฟากฟ้าและเอกภพ กับเหตุการณ์บนโลก การผูกดวงของวงรอบดาว(Planetary Cycles ) ดิถีของดวงจันทร์(Moon Phase) ดาวหาง ดาวสถิตราศี(Planet Ingress) ส่งผลกระทบอันใดบ้างต่อมวลมนุษย์ในประเทศต่างๆ เช่นลมฟ้า อากาศ ภัยพิบัติ การเสื่อมทรุดหรือมีการพัฒนาการอะไรบ้าง การสงคราม การปฏิวัติ การระบาดติดเชื้อ ยารักษา เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ทั้งร่างกายและจิตใจ ศาสนา ความขัดแย้ง เป็นต้น
กองทัพ การเมือง เศรษฐกิจ ประชาชาติ นั้นเชื่อว่าถูกอิทธิพลของดวงดาวครอบคลุม โดยมิรู้ตัว ในคริสต์ศตวรรษ์ที่20ทฤษฏีจิตวิทยาของท่านคาร์ลจุง(Carl Jung)กล่าวไว้ว่า จิตวิทยาของปักเจกชนกับจิตวิทยาของชาติหรือประเทศ ล้วนผูกพันธ์กันสัมพันธ์กัน นั้นคือการที่จะดูดวงเมือง สามารถอาศัยดวงผู้นำ ตรวจดูชะตาประเทศได้ ดาวเคราะห์ที่ครอบคลุมมวลมนุษยชาตินั้นประกอบไปด้วยดาวพระเคราะห์วงนอก(Outer Planets) เช่นดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยูเรเนัสหรือดาวมฤตยู ดาวเนปจูน ดาวพลูโต ดาวเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ เศษฐกิจสังคม การเมือง ประเพณี โรคภัยไข้เจ็บ วัฒนธรรม ทั้งสิ้น โดยเฉพาะการโคจรเข้าสู่ราศีต่างๆ และวงรอบของดาว
โหราศาสตร์จึงเปรียบเสมือนสื่อระหว่างทัศนคติของจิตวิญาณและวัตถุ ผ่านแผนที่บนท้องฟ้า(Zodiac) อ่านดาวที่โคจรผ่านไปผ่านมา แปลเป็นภาษามนุษย์ เสมือนดังตาทิพย์เห็นความเป็นไปประดุจภาพวาด
การเคลื่อนที่ไปมาของธรรมชาติ เช่นกลางวันสู่กลางคืน การเคลื่อนไหวฤดูต่างๆ ทุกอย่างล้วนมีการเคลื่อนไหวอย่างมีระบบ มีการหมุนเวียนสลับปรับเปลี่ยน จากร้อนไปสู่หนาว จากความชุ่มฉ่ำไปสู่ความแห้งแล้ง คือมีเปลียก แห้ง เย็น มืดสู่สว่าง ทุกอย่างย่อมมีความสำคัญและสัมพันธ์กันซึ่งกันและกันนั้นคือการเชื่อมทุกสิ่งเข้าด้วยกัน อย่างไม่สมารถหลีกเลี่ยงได้ ประวัติศาสตร์ของแต่ล่ะชาติ แต่ล่ะประเทศจึงมีวงล้อที่สัมพันธ์กับเวลา ทุกสิ่งมีการเริ่มต้นแล้วหมุนเวียนไปเมื่อครบรอบจะกลับมาที่เดิมอีกครั้ง ดุจดังคลื่นทะเล
เมื่อมนุษย์มีการหายใจเข้าออก เอกภพบนท้องฟ้าและจักรวาลก็มีการหายใจเฉกเช่นกัน มนุษย์หายใจ4วินาทีต่อครั้ง เมอริเดียนก็เท่ากันคือ4วินาทีหมุนไปต่อครั้ง ในห้วงท้องฟ้าได้แบ่ง หนึ่งองศาเทียบหนึ่งวันโดยประมาณ ฉนั้น360องศาจึงเทียบเป็นหนึ่งปี จากนั้นแบ่งเป็น30องศาให้ครบ12เดือน ได้4ฤดูกาล งานในทางการเมืองของเพลโต รัฐในอุดมคติของเพลโต จึงมีสมาชิกในสภาเพียง360คน แบ่งเป็น12กลุ่มให้แต่ละกลุ่มหมุนเวียนกันปกครองโดยกลุ่มละ1เดือน
ยุคในโหราศาสตร์สมัยปัจจุบัน อยู่ที่จุดวิษุวัตเข้าสู่ราศีสมัย (Precession)หรือค่าอยนางศ(Ayanamsa)คือโลกหมุนตัวเองแบบลูกข่าง ส่ายไปมาบนรอบแกนหมุนของตนเอง ทำมุม23องศากับจุดรวิมรรค แต่ในขณะเดียวกันแกนโลกกับหมุนไปในทิศทางตรงกันข้าม อัตราการหมุนแกว่ง( Precesion per Rate)เท่า50.3708ฟิลิปดา โคจรแกว่งไป1องศาใช้เวลา ประมาณ72ปี หนึ่งราศีใช้เวลาเคลื่อนที่ไป2160ปี ครบรอบจักราศี360องศาใช้เวลา 25920ปี เชื่อกันว่าจักรวาลจะเคลื่อนที่ไปด้วยกันทั้งหมด
การเคลื่อนโคจรของPrecessionมีผลต่อมวลชน จิต สภาวะ วัฒนธรรม อุดมคติ การเมืองการปกครองผ่านความหมายทางราศีเช่นราศีเมษ การบุกรุก ภาวสงคราม การเคารพศรัธาสิ่งที่ทรงพลัง บูชานักรบ ชื่นชอบนักกีฬา
ราศีพฤษภ การก่อสร้างเมือง การคงอยู่แบบถิ่นฐาน ความมั่งคั่ง การเก็บเกี่ยว
ราศีมิุถุน การประดิษฐ์คิดค้นแบบหนังสือ ตัวเขียน การสื่อสารค้าขาย การย้ายถิ่นฐาน
ราศีสิงห์ ชนชั้นการปกครอง กลุ่มสังคมชั้นสูง
ราศีมีน ความสับสน ไร้เสถียรภาพ การนับถือศาสนา การเคว้งคว้าง ต่ำต้อย
ราศีกุมภ์ ยุคแห่งทันสมัย ยุคอวกาศ คอมพิวเตอร์ เสรีภาพ การปฏิวัติทั้งอุตสาหกรรม การเมืองและอุดมคติ การค้นพบสิ่งใหม่ๆ การโหยหาเสรีภาพ
การปรากฏการบนท้องฟ้ามักจะสะท้อนลงสู่มนุษย์ ผ่านความสัมพันธ์ของดาวคู่ต่างๆ
ยูเรนัส -พลูโต การปฏิวัติ การเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดการวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี่
เสาร์ ยูเรเนัส การลงทุนที่ยากต่อการทำกำไรของอุตสาหกรรม ต่างๆ
เสาร์ พลูโต การบีบบังคับ การทำสงคราม การเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่จากสิ่งเก่า
พฤหัส เสาร์ การขยายตัวอย่างจำกัดหรืออย่างลำบากขัดสน การจัดการอย่างเด็ดขาดโดยการทำลายและริบข้าวของ
พฤหัส ยูเรนัส การลงทุนอย่างเสรี การเก็งกำไร
พฤหัส เน็ปจูน ภาวะเงินเฟ้อ
พฤหัส พลูโต การได้มาทั้งอำนาจและเงินตรา เศรษฐีทุนนิยมครอบครองเมือง
การดูดวงเมือง ตำแหน่งของอาทิตย์ จันทร์ ลัคนา และเมอริเดียนในดวงเมืองนั้นๆ เป็นจุดที่ไวต่อผลกระทบ(Sensitive) ถ้าหากมีดาวTransit โคจรทำปฏิสัมพันธ์กับจุดนี้ ก็อาจจะก่อให้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นก็ได้
ภัยพิบัติ เหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อโลก เป็นอย่างยิ่งคือคราส บนท้องฟ้า ไม่ว่าสุริยคราส หรือจันทรคราส ให้ผูกเวลาที่เกิดเหตุการณ์แล้วตรวจดู อังคาร เสาร์ มฤตยู เนปจูน หรือศูนย์รังสีร้าย ไปสัมผัสหรือมีมุมสัมพันธ์กับอาทิตย์ จันทร์ ลัคนาวงเมืองใด เมืองนั้นควรระวังเหตุการณ์ร้ายจะอุบัติ