วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

วันลอยกระทง พระจันทร์เค็มดวงในกรุงเทพกี่โมงกันแน่ แล้วจะทำอะไรกันดี

ข่าวสารจากชมรมSkyclock โหราศาสตร์สากล – ยูเรเนียน
วันเพ็ญแท้ ทำอะไรกันดีในเคือนพฤศจิกายน 2552
Full Moon (3.11.2009 2:21:00 GMT+7:00) Bangkok (13N45'00 100E31'01)
Tropical, Geocentric, Placidus
วันที่3 พ.ย. 2552 เวลา2.21 กรุงเทพ บนท้องฟ้า เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นช่วงกำลังหลับสบาย อาจจะมีบางท่าน ยังไม่ได้หลับ อาจจะมีกิจกรรมต่างๆหลากหลาย บางท่านอาจจะยังฉลองกับเพื่อนๆ บางท่านอาจจะเล่นอินเตอร์เน็ต บางท่านอาจจะนั่งสมาธิ เพื่อรับพลังงานจากจักวาล เดี๋ยวจะมีวิธีนั่งแบบเต๋า เพื่อฟอกอากาศที่ไม่ดีออกจากร่างกาย ตอนนี้มานั่งวิเคราะห์ดาวบนท้องฟ้า หรือปัจจัยทางดาราศาสตร์กันว่า บนท้องฟ้าณ.เวลานี้เป็นอย่างไร
ชั่วโมงนี้เวลา2.12เช้าวันที่3 พ.ย. 2552 และตลอดทั้งวัน ควรหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้งกัน เป็นวันที่คนจะหงุดหงิดง่ายมากๆ งดการเจราจาที่จะเอาเปรียบกัน เพราะเป็นวันที่ต่างคนต่างไม่ยอมกัน เหมาะกับการอยู่บ้านปลีกวิเวกซะดีกว่า ไปฉลองนอกบ้านอาจจะมีเรื่อง ไม่ทันรู้ตัว ถ้าท่านเข้าใจฟ้า ก็คงไม่ไปดึงดัน ไม่ทำตัวต่อต้านก็จะกลายเป็นคนที่รู้จักใช้ชีวิต ที่สอดคล้องกับจักรวาล ไม่ประมาทชีวิตเพียงแค่คิดสนุกชั่วคราว เศร้าไปอีกนาน ดังนั้นขอแนะนำนั่งสมาธิสูดลมปราณ ล้างอากาศพิษออกจากร่างกาย เพื่อสร้างเงื่อนไขกับชีวิตในทางสร้างสรรค์ เมื่อเงื่อนไขดี สร้างกรรมดี กระทำในสิ่งที่ดี จะเป็นวงรอบชีวิตที่ดีๆต่อไปในข้างหน้า ตามวัฏฏะจากวงรอบเล็กจะนำไปสู่วงรอบใหญ่ จากการสร้างกรรมที่ดีในเรื่องเล็กๆ จากการคิดดีอยู่ในใจสม่ำเสมอจะนำไปสู่ภายนอกที่ยิ่งใหญ่ และสิ่งที่ดีๆจากการกระทำ ก็จะนำสิ่งที่ดีๆเข้าสู่ตัวตนทั้งร่างกายและจิตใจ ปลุกเสกตัวเองเข้าทุกวัน จะเป็นสิ่งมงคลที่จะพ้นภัยจากคนพาล คนเบียดเบียน และสิ่งที่ไม่ดีทั้งสิ้น วงรอบทาง โหราศาสตร์เป็นทางชี้แนะเพื่อหลีกเลี่ยงในสิ่งที่ไม่ดี เพราะสิ่งนั้นจะกลับมาเมื่อตอนอายุและวันเวลาที่คุณได้กระทำ เมื่อเอาอายุคูณสองเท่า
มาฝึกหายใจด้วยท้องน้อยกันเถอะ ?

การหายใจด้วยท้องน้อยเป็นการหายใจที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นการหายใจที่ผ่อนคลาย ลุ่มลึก และร่างกายได้รับออกซิเจนมากที่สุด อีกทั้งเป็นการนวดอวัยวะในช่องท้องอีกด้วย "เรามีฝีกการหายใจด้วยท้องน้อย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงทุกวัน"...
การหายใจด้วยท้องน้อยจะดันกะบังลมให้แผ่ขยายออก แนะเนื่องจากมีเส้นชี่สำคัญ ๆ 9 เส้นพาดผ่านกะบังลม การหายใจที่ทำให้กระบังลมขยาย จึงเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของชี่และเลือดอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการนวดอวัยวะภายในช่องท้อง เมื่อหายใจเข้าลึก หน้าท้องขายายออก กะบังลมจะลดต่ำลง ทำให้อากาศถูกดึงเข้าไปถึงปลายปอด ปอดจึงสามารถรับออกซิเจนได้มากขึ้น วิธีนี้สามารถทำได้ทั้งขณะยืน นั่งและนอน
การหายใจด้วยท้องน้อยคุณต้องปล่อยให้ร่างกายทุกส่วนผ่อนคลาย นำความรู้สึกทั้งหมดมาวางไว้ที่จุด “ตันเถียนล่าง” จุดนี้ตั้งอยู่บนเส้นชี่กลางลำตัว ตำแหน่งอยู่หลังสะดือ และอยู่หน้าไต วางมือทั้งสองทับซ้อนกันเหนือสะดือปล่อยให้มือผ่อนคลายสบาย ๆ (ผู้หญิงวางมือซ้ายทับมือขวา ผู้ช่วยวางมือขวาทับมือซ้าย)
เริ่มต้นให้หายใจออกพร้อมกับเปิดปากเล็กน้อย ขณะที่หายใจออกหดกล้ามเนื้อท้องเบา ๆ หน้าอกผ่อนคลายและนิ่ง รู้สึกว่าชี่เก่า ๆ หรือลมในช่องท้องกำลังถูกบีบดันจากท้องน้อยออกไปพร้อมกับลมหายใจออก จากนั้นปิดริมฝีปากใช้ปลายลิ้นแตะฐานเพดานบนหลังฟันหน้าเบา ๆ ยังคงรักษาหน้าอกให้นิ่ง หายใจเข้าช้า ๆ ผ่านรูจมูก จินตนาการว่า อากาศเคลื่อนลงไปช้า ๆ จนถึงจุดตันเถียนล่าง เมื่ออากาศเคลื่อนเข้าไปจนเต็ม หน้าท้องจะค่อย ๆ พองขึ้นจนอากาศเต็มก็หยุดหายใจตามธรรมชาติสักหน่อยเท่าที่รู้สึกสบาย จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกทางรูจมูกอย่างอ่อนโยนจนกระทั่งหน้าท้องแฟบลง
ทุกครั้งที่หายใจเข้า ให้จินตนาการว่ากำลังรับชี่หรืออากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย และเมื่อหายใจออกให้รู้สึกว่าชี่เก่าหรือลมที่ตกค้างอยู่กำลังถูกผลักดันออกไป ถ้าคุณได้ยินเสียงลมในท้อง นี่คือสัญญาณว่าการนวดอวัยวะภายในเป็นไปด้วยดี
สำหรับผู้เริ่มฝึกอาจจะหายใจ 6 รอบต่อนาที แต่ฝึกไปจนชำนาญ คุณจะหายใจลึกและยาวขึ้นจนเหลือ 2 – 3 รอบต่อนาที การหายใจด้วยท้องน้อย จะสามารถลดการสูบหรี่ได้อีกด้วย

ข้อมูลฝึกลมหายใจจาก
http://www.tao-garden.net/index.php?option=com_content&task=view&id=47&Itemid=9